รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล

วีดีทัศน์โครงการ


ลักษณะโครงการ

      โครงสร้างรถไฟฟ้าแบบยกระดับระยะทาง 21.5 กม. สถานียกระดับ 15 สถานี และโครงสร้างรถไฟฟ้าแบบใต้ดินระยะทาง 5.4 กม. สถานีใต้ดิน 4 สถานี


ช่วงหัวลำโพง - บางแค
รายละเอียดแนวเส้นทาง
      ระยะทาง 15.9 กม. เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินมีลักษณะทางวิ่งอุโมงคู่รางเดี่ยว ในช่วงหัวลำโพง - ท่าพระ ระยะทาง 5.4 กม. มีสถานีใต้ดินจำนวน 4 สถานี และทางวิ่งยกระดับในช่วงท่าพระ - บางแค ระยะทาง 10.5 กม. มีสถานียกระดับจำนวน 7 สถานี โครงการจะเริ่มต้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เป็นเส้นทางใต้ดินตามแนวถนนพระราม 4 ผ่านถนนเจริญกรุง วังบูรพา ถนนสนามไชย ลอดใต้แม้น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณปากคลองตลาด ลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ ถนนอิสรภาพ แล้วเปลี่ยนเป็นเส้นทางยกระดับมีลักษณะเป็นทางวิ่งรางคู่บนเสาตอม่อบริเวณบนเกาะกลางถนนเข้าสู่สี่แยกท่าพระ ซึ่งจะมีสถานีร่วมกับโครงการฯ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ไปตามแนวถนนเพชรเกษม ผ่านบางไผ่ บางหว้า บางแค และสิ้นสุดสายทางที่บริเวณวงแหวนรอบนอกถนนกาญจนาภิเษก


ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ
รายละเอียดเส้นทาง
      ระยะทาง 11.08 กม. เป็นเส้นทางยกระดับทั้งหมดมี 8 สถานี มีลักษณะเป็นทางวิ่งรางคู่บนเสาตอม่อบริเวณเกาะกลางถนน โครงการจะเริ่มต้นโดยการต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล บริเวณสถานีบางซื่อ ผ่านสถานีเตาปูนซึ่งเป็นสถานีร่วมกับโครงการฯ สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ เข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านสี่แยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์บริเวณโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 ผ่านแยกบางพลัด แยกบรมราชชนนี แยกไฟฉาย และสิ้นสุดที่แยกท่าพระ โดยเชื่อมต่อกับโครงการฯ สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค


ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ
รายละเอียดเส้นทาง
     ระยะทาง 20 กม. เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน มีลักษณะเป็นอุโมงคู่ รางเดี่ยว มีสถานีใต้ดินจํานวน 18 สถานี และเป็นโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายแรกของประเทศไทย เริ่มต้นที่สถานีหัวลําโพง ผ่านถนนพระรามที่ 4 เลี้ยวซ้ายผ่านศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผ่านอโศก ถนนรัชดาภิเษก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าวผ่านสวนจตุจักร ตลาดนัดจตุจักร และ สิ้นสุดที่สถานีบางซื่อ

อุโมงค์
      เป็นอุโมงค์คู่รางเดี่ยว คือ เดินรถอุโมงค์ละหนึ่งทิศทาง มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 5.7 เมตร หนา 30 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางภายนอก 6.3 เมตร

รางรถไฟฟ้า
      เป็นรางมาตรฐาน UIC 54 กว้าง 1.435 เมตร จ่ายกระแสไฟฟ้าโดยรางที่ 3 ในอุโมงค์จะยึดติดคอนกรีตโดยตรงเพื่อประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและความนุ่มนวลของการเดินรถ ส่วนรางบริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงใช้หมอนรองรางเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและบำรุงรักษา

ศูนย์ซ่อมบำรุง
      ใช้พื้นที่ประมาณ 300 ไร่ เป็นโครงสร้างยกระดับประมาณ 3 เมตร ประกอบด้วย อาคารโรงซ่อมบำรุง อาคารศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ สถานีจอดรถไฟฟ้า อาคารโรงซ่อมบำรุง รางวิ่งทดสอบ และอาคารบริหาร


ลักษณะโครงสร้าง

โครงสร้าง 2 ชั้น

      โครงสร้าง 2 ชั้น ประกอบด้วย

      ชั้นที่ 1 ชั้นโถงผู้โดยสาร เป็นสถานที่สำหรับซื้อและตรวจตั๋วโดยสารและแสดงแผนภูมิเส้นทางรถไฟฟ้า

      ชั้นที่ 2 ชั้นชานชาลา เป็นชั้นที่รถไฟฟ้าจอดเทียบรับ-ส่งผู้โดยสาร ประตูจะเปิดและปิดเมื่อรถไฟฟ้าจอดเทียบสถานีเท่านั้น

      โครงสร้าง 2 ชั้นนี้ มีจำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีหัวลำโพง สถานีห้วยขวาง สถานีสุทธิสาร และ สถานีบางซื่อ

โครงสร้าง 3 ชั้น

      โครงสร้าง 3 ชั้น ประกอบด้วย
      ชั้นที่ 1 ชั้นรวมผู้โดยสาร มีลักษณะเป็นพื้นที่โล่ง ประกอบด้วยร้านค้าปลีกต่างๆ
      ชั้นที่ 2 ชั้นโถงผู้โดยสาร เป็นสถานที่สำหรับซื้อและตรวจตั๋วโดยสารและแสดงแผนภูมิเส้นทางรถไฟฟ้า
      ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลา เป็นชั้นที่รถไฟฟ้าจอดเทียบรับ-ส่งผู้โดยสาร ประตูจะเปิดและปิดเมื่อรถไฟฟ้าจอดเทียบสถานีเท่านั้น
      โครงสร้างสถานี 3 ชั้น เป็นโครงสร้างที่สถานีส่วนใหญ๋สร้างในลักษณะนี้ ซึ่งมีจำนวน 11 สถานี ได้แก่ สถานีคลองเตย สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานีสุขุมวิท สถานีเพชรบุรี สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีรัชดาภิเษก        สถานีลาดพร้าว สถานีพหลโยธิน สถานีสวนจตุจักร สถานีกำแพงเพชร

โครงสร้าง 4 ชั้น

      โครงสร้าง 4 ชั้น มีรายละเอียดโครงสร้างเช่นเดียวกับ 2 ชั้น และ 3 ชั้น ประกอบ

      ชั้นที่ 1 ชั้นโถงผู้โดยสาร
      ชั้นที่ 2 ชั้นชานชาลา
      ชั้นที่ 3 เป็นชั้นห้องเครื่องสำหรับระบบต่างๆ เช่น พัดลมดูดอากาศ ระบบไฟฟ้า เป็นต้น
      ชั้นที่ 4 ชั้นชานชาลาล่าง
      โครงสร้าง 4 ชั้นนี้ มีจำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานีสามย่าน สถานีสีลม และสถานีลุมพินี สาเหตุที่สถานีดังกล่าวต้องสร้างโครงสร้าง 4 ชั้น ก็เนื่องจากภายใต้พื้นดินมีสาธารณูปโภค เช่น อุโมงค์ประปา สายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ กีดขวางอยู่ เป็นจำนวนมาก ในการก่อสร้างสถานีจึงต้องหลีกเลี่ยงสาธารณูปโภคดังกล่าว


การให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบรถไฟฟ้า
      รถไฟฟ้าที่นำมาให้บริการเป็นรถขนาดใหญ่ ปรับอากาศ ขนาดกว้าง 3.12 เมตร ยาว 21.5 – 21.8 เมตร สูงประมาณ 3.8 เมตร ใช้ไฟฟ้า 750 โวลต์ กระแสตรงป้อนระบบขับเคลื่อนรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขับเคลื่อนตัวรถ ควบคุมการเดินรถด้วยระบบอัตโนมัติจากศูนย์ควบคุม

อัตราขนส่งผู้โดยสาร
      ขบวนรถไฟฟ้ามีทั้งหมด 54 ขบวน แบ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรก 19 ขบวน และรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 35 ขบวน โดยรถไฟฟ้า 1 ขบวนจะประกอบไปด้วย 3 ตู้ และสูงสุด 6 ตู้ สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ประมาณ 886 คน สําหรับรถไฟฟ้ารุ่นแรก (3 ตู้) และ 1,129 คน สําหรับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ (3 ตู้)

ความเร็วรถ
     รถไฟฟ้าสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วเฉลี่ยในการให้บริการ 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง

สิ่งอำนวยความสะดวก
      ภายในสถานีได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้งผู้พิการ คนชราและหญิงมีครรภ์ ได้แก่ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ระบบปรับอากาศทั้งภายในสถานีและตัวรถ ร้านค้าปลีก และห้องน้ำ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการภายในลิฟต์จะมีอักษรเบรลล์ บริเวณชานพักบันได้ภายในสถานีจะมีปุ่มสัญลกษณะสำหรับผู้พิการทางสายตา นอกจากนั้นภายในห้องน้ำยังได้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ผู้พิการสามารถใช้ได้อย่างสะดวกด้วย

 ระบบป้องกันน้ำท่วม
      เนื่องจากกรุงเทพมหานครมักประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่เสมอๆ ดังนั้นในการดำเนินโครงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล จึงได้กำหนดแนวทางความปลอดภัยในการออกแบบเพื่อป้องกันน้ำท่วมภายในตัวสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยใช้ค่าระดับที่ 1 เมตร เหนือค่าระดับน้ำท่วมกรุงเทพฯ สูงสุดในรอบ 200 ปี เป็นค่ากำหนดในการนำไปใช้ออกแบบทางขึ้น-ลง สถานี และช่องเปิดต่างๆ ซึ่งน้ำสามารถไหลเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินได้ ดังนี้
      ตำแหน่งอาคารทางขึ้น-ลงสถานี ได้กำหนดให้ทางขึ้น-ลงสถานีมีระดับความสูงเท่ากับค่าระดับฝนสูงสุดในรอบ 200 ปี คือ 1.2-1.5 เมตร พร้อมทั้งติดตั้ง Stop Log ที่มีความสูงขึ้นไปอีก 1 เมตร เพื่อปิดกั้นหากน้ำมีระดับสูงขึ้นกว่า 1.5 เมตร
      ตำแหน่งปลายอุโมงค์ชั้นใต้ดินที่ศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นบริเวณที่ปลายอุโมงค์บรรจบกับพื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงได้ก่อสร้างให้มีค่าความสูงเท่ากับทางขึ้น-ลงสถานี และในช่องปลายอุโมงค์ที่มีความลาดชันได้มีการออกแบบไว้ให้มีบ่อพักเพื่อดักและเก็บน้ำที่จะไหลเข้าสู่ตัวอุโมงค์อันเนื่องจากฝนตกทั่วไป พร้อมทั้งมีปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำออกจากบ่อพักดังกล่าวออกจากตัวอุโมงค์
      ตำแหน่งอาคารปล่องระบายอากาศหรือทางขึ้น-ลงฉุกเฉิน ค่าระดับฐานหรือพื้นอาคารได้ก่อสร้างให้มีความสูงเช่นเดียวกับความสูงของทางขึ้น-ลงสถานีข้างต้น

ระบบป้องกันอัคคีภัย
      ได้กำหนดให้ออกแบบและก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นไปตามมาตรฐานสากล คือ มาตรฐาน NFPA 130 ซึ่งจะมีทั้งการป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัย ดังนี้
      การป้องกันการเกิดอัคคีภัย ลดโอกาสที่จะเกิดอัคคีภัย หรือหากมีอัคคีภัยเกิดขึ้นก็จะอยู่ในวงจำกัด โดยการกำหนดคุณลักษณะและคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง รวมทั้งกำหนดรูปแบบของอาคาร เช่น การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ติดไฟง่าย
      การระงับเหตุอัคคีภัย จุดประสงค์หลักเพื่อระงับการเกิดเพลิงไหม้รวมถึงการอำนวยความสะดวกผู้ประสบเหตุในการหนีไฟให้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุด โดยออกแบบให้สามารถอพยพผู้โดยสารสู่จุดปลอดภัยได้ภายใน 6 นาที จัดให้มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุและเตือนภัยอัตโนมัติ ระบบประกาศสาธารณะและบอกทิศทางในกรณีฉุกเฉิน ระดับเพลิงอัตโนมัติ ซึ่งมีน้ำเพียงพอที่จะดับไฟภายในถสานีได้ถึง 45 นาที นอกจากนั้นยังมีท่อดับเพลิงและหัวดับเพลิงซึ่งสามารถรับน้ำจากภายนอกได้โดยติดตั้งตลอดแนวอุโมงค์ในระยะทุก 50 เมตร เป็นต้น

ความปลอดภัยในการเดินรถ
      ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ 3 ระบบ คือ
      1. ระบบควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนผู้ขับรถ ควบคุมการออกรถ การเบรค การใช้ความเร็วที่เหมาะสม การจอดรถ และการเปิด-ปิดประตู
      2. ระบบป้องกันอัตโนมัติ ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมความเร็วรถให้อยู่ในพิกัดความเร็วที่ปลอดภัยสัมพันธ์กับระยะห่างระหว่างรถข้างหน้า กรณีที่รถ 2 ขบวน มีระยะห่างใกล้หรือไกลเกินกำหนด รถไฟฟ้าจะหยุดเองโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นคนขับรถไฟฟ้าก็จะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
      3. ระบบการปล่อยรถตามตารางที่ตั้งไว้ รถจะถูกปล่อยออกมาตามตารางการเดินรถที่ได้กำหนดไว้โดยอัตโนมัติเพื่อให้รถไฟฟ้าไปถึงจุดหมายปลายทางได้ตรงตามกำหนดเวลา
 
ความปลอดภัยของผู้โดยสาร
      ภายในสถานีได้ออกแบบให้เป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีซอกมุมและถังขยะเพื่อเป็นที่ซุกซ่อนสิ่งแปลกปลอม และมีโทรทัศน์วงจรปิดติดตั้งทุกระยะเพื่อตรวจความเรียบร้อยภายในสถานีตลอดเวลา ทุกสถานีจะมีเจ้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รฟม. และเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้รับสัมปทานรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลซึ่งแต่ละสถานีตำรวจจะส่งมาประจำ นอกจากนั้นยังมีโทรทัศน์วงจรปิดติดตามจุดต่างๆ ภายในสถานีทุกชั้น บริเวณชานชาลาจะมีประตูชานชาลาซึ่งติดตั้งไว้ทุกสถานีเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในระหว่างรอรถ ลักษณะเป็นกำแพงกระจกตลอดความยาวของชานชาลา ประตูชานชาลานี้ออกแบบมาให้เปิดออกได้ก็ต่อเมื่อมีรถไฟฟ้าจอดสนิทที่ชานชาลา เท่านั้น นอกจากนี้บานประตูทุกบานยังมีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารติดอยู่ระหว่างประตู


การบริหารงานโครงการ

การบริหารงานโครงการ

      ในการบริหารงานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ได้แบ่งเป็น 5 สัญญาก่อสร้าง และ 1 สัญญาสัมปทาน คือ

สัญญาที่ 1

      งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์และสถานีส่วนใต้ คือตั้งแต่สถานีหัวลำโพงถึงสถานีพระราม 9 รวม 9 สถานี เป็นงานอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างสถานี อุโมงค์ส่วนแยกเข้าสู่ศูนย์ซ่อมบำรุง และปล่องระบายอากาศระหว่างสถานี 3 แห่ง

สัญญาที่ 2

      งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์และสถานีส่วนเหนือ คือตั้งแต่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยถึงสถานีบางซื่อ รวม 9 สถานี เป็นงานในลักษณะเดียวกันกับส่วนใต้ ต่างกันตรงที่มีปล่องระบายอากาศระหว่างสถานี 5 แห่ง

สัญญาที่ 3

      งานออกแบบก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง เป็นการก่อสร้างลานคอนกรีตเพื่อใช้เป็นลานจอดรถไฟฟ้ายกระดับ สูงจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร

สัญญาที่ 4

      งานออกแบบ จัดหา และติดตั้งระบบราง เป็นสัญญาติดตั้งและวางรางรถไฟฟ้าทั้งรางวิ่งและรางจ่ายกระแสไฟฟ้า ทั้งส่วนเหนือ ส่วนใต้ และศูนย์ซ่อมบำรุง

สัญญาที่ 5

      งานออกแบบ จัดหา และติดตั้งลิฟต์และบันไดเลื่อน

สัญญาที่ 6

      งานสัมปทานออกแบบ จัดหาและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและเดินรถ เป็นสัญญาสัมปทานให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนและบริการเดินรถ ดำเนินการโดย บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
      ระยะที่ 1 เป็นช่วงเวลาตั้งแต่ลงนามในสัญญาสัมปทานจนกระทั่งรถไฟฟ้าใต้ดินพร้อมเปิดให้บริการ โดยผู้สัมปทานมีหน้าที่ ออกแบบ ผลิต จัดหา ติดตั้ง ทดสอบ และทดลองใช้งานอุปกรณ์งานระบบร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานทางโยธาของ รฟม.
      ระยะที่ 2 เป็นช่วงเวลาตั้งแต่การให้บริการและบำรุงรักษาระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นเวลา 25 ปี ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ จนกระทั่งสิ้นสุด และจะต้องนำโครงสร้างพื้นฐานโยธาและงานระบบทั้งหมดที่ BMCL จัดหาคืนให้กับ รฟม. โดย BMCL ได้ว่าจ้างบริษํท Siemens จำกัด เป็นผู้รัเหมา ในลักษณะการจ้างแบบเบ็ดเสร็จ โดยเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ผลิต ติดตั้ง ไปจนกระทั่งทำให้ระบบมีความพร้อมที่จะใช้งาน รวมถึงอบรมพนักงานให้มีความพร้อมในการให้บริการได้ด้วย และเป็นผู้บำรุงรักษาอุปกรณ์งานระบบอีกเป็นระยะเวลา 10 ปี


การจัดเก็บค่าโดยสาร 

บัตรโดยสาร

      แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

      1. เหรียญโดยสาร มีลักษณะเป็นเหรียญพลาสติกวงกลม สามารถซื้อได้จากเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสาร ใช้สำหรับการโดยสารเพียงเที่ยวเดียว

      2. บัตรโดยสารชนิดเติมเงิน มีลักษณะเท่ากับบัตรเครดิต สามารถซื้อได้จากห้องจำหน่ายบัตรโดยสารในสถานี เหมาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการเป็นประจำ

เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสาร

      เป็นระบบอัตโนมัติแบบสัมผัส รับได้ทั้งเหรียญและธนบัตร และสามารถทอนเงินได้ 

ประตูอัตโนมัติ

      สามารถเปิดได้โดยไม่จำเป็นต้องสอดบัตรหรือเหรียญโดยสาร เพียงนำบัตรหรือเหรียญเข้าใกล้ประมาณ 10 เซนติเมตร เครื่องจะเปิดได้เองโดยอัตโนมัติ


บริษัทผู้รับสัมปทาน : บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

วงเงินลงทุน

แสดงวงเงินลงทุน ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ และ หัวลำโพง - บางแค
รายการ
เงินลงทุน  
หน่วย
ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
5,900.00
ล้านบาท
ค่าก่อสร้างงานโยธา
53,683.75
ล้านบาท
ค่างานระบบรถไฟฟ้า
22,785.42
ล้านบาท
รวม
82,369.17

ล้านบาท

แสดงวงเงินลงทุน ช่วงบางแค - พุทธมนฑลสาย 4
รายการ
เงินลงทุน  
หน่วย
ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
3,920.00
ล้านบาท
ค่าก่อสร้างงานโยธา
10,870.00
ล้านบาท
ค่างานระบบรถไฟฟ้า
6,407.00
ล้านบาท
รวม
21,197.00

ล้านบาท

เว็บไซต์โครงการ ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ

-

ลิงก์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด